Spend Smart. Eat Smart.

บล็อก

ผลิตภัณฑ์เนื้อวัวถูกกระแทกอย่างไม่เป็นธรรม


| Peggy Martin

ผลิตภัณฑ์เนื้อวัวถูกกระแทกอย่างไม่เป็นธรรม

ฉันผิดหวัง/ท้อแท้/ขยะแขยงที่การตัดแต่งเนื้อไม่ติดมันไม่มีกระดูกถูกขับออกจากชั้นวางของชํา ผลที่ได้น่าจะเป็นแฮมเบอร์เกอร์ที่มีราคาสูงขึ้นโปรตีนที่สูญเปล่าที่สามารถนําไปใช้ในการบริโภคของมนุษย์นวัตกรรมน้อยลงคนหลายพันคนตกงานและ บริษัท ล้มละลาย

ฉันได้อ่านบทความมากมายและดูวิดีโอมากมายเกี่ยวกับสิ่งที่เรียกว่า “เมือกสีชมพู” นี่คือสิ่งที่ฉันค้นพบ

  • เนื้อวัวเนื้อละเอียดไม่ติดมัน (LFTB) เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเล่นอย่างไม่เป็นธรรมว่า “เมือกสีชมพู” LFTB เป็นเนื้อเยื่อของกล้ามเนื้อที่แยกออกจากไขมันโดยใช้กระบวนการหมุนเหวี่ยงส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ไม่ติดมันประมาณ 95 เปอร์เซ็นต์ กระบวนการนี้จะเปลี่ยนเนื้อสัมผัสของเนื้อไม่ติดมันทําให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่คล้ายกับเนื้อบดละเอียด
    • ผลิตภัณฑ์จากเนื้อบดหรือเนื้อวัวผสมมีความเสี่ยงต่อเชื้อโรคที่เกิดจากอาหาร เนื่องจากจุลินทรีย์หากมีอยู่จะถูกกระจายผ่านผลิตภัณฑ์ ทําให้มีโอกาสน้อยที่จะถูกฆ่าระหว่างการปรุงอาหารเมื่อเทียบกับบาดแผลที่ผิวหนังของกล้ามเนื้อทั้งหมด ดังนั้นเพื่อให้ผลิตภัณฑ์ปลอดภัยยิ่งขึ้น บริษัท จึงใช้แอมโมเนียมไฮดรอกไซด์เพื่อฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ในระหว่างการแปรรูป แอมโมเนียมไฮดรอกไซด์ยังใช้ในอาหารแปรรูปอื่นๆ เช่น ขนมอบ เจลาติน พุดดิ้ง และชีส และสามารถเกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติในอาหาร
  • ไม่มีสีชมพูเพิ่มเนื่องจากสีที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติมาจากเนื้อเยื่อของกล้ามเนื้อเนื้อ LFTP มีสีชมพูมากกว่าเนื้อบดทั่วไปเพราะมีไขมันน้อยกว่า

บางคนแนะนําให้ติดฉลากเนื้อบดที่มี LFTB นั่นคงจะดีกับฉัน ฉันยินดีที่จะจ่ายน้อยลงเพื่อซื้อผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยและไม่ติดมัน

สําหรับข้อมูลเพิ่มเติม:

Youtube จาก American Meat Institute
http://www.youtube.com/watch?v=GDiPjmsKeh8&feature=youtu.be

วิดีโอจาก Texas A และ M
http://www.meatmythcrushers.com/myths/myth-ordinary-household-ammonia-is-used-to-make-some-hamburgers.html

ความคิดเห็นจาก Nancy Donley ซึ่งลูกชายวัย 6 ขวบเสียชีวิตจากการกินเนื้อบดที่ปนเปื้อนในปี 1993 ใน Food Safety News ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ผลิตโดย Marler Clark Marler Clark เป็นสํานักงานกฎหมายชั้นนําของประเทศที่มีแนวปฏิบัติที่อุทิศตนเพื่อเป็นตัวแทนของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของการเจ็บป่วยที่เกิดจากอาหาร
http://www.foodsafetynews.com/2012/03/in-defense-of-food-safety-leadership/?utm_source=newsletter&utm_medium=email&utm_campaign=120317